สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในภาคใต้ขณะนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามลำดับ


โดยเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2560 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยส่วนหน้าอำเภอบางสะพาน โรงเรียนบางสะพานวิทยา อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้พระราชทานถุงยังชีพ ซึ่งบรรจุสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคจำนวน 500 ชุด แก่ตัวแทนของราษฎรที่ประสบอุทกภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผู้แทนส่วนราชการ เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัย

นอกจากนั้น ยังโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทาน จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า และโรงพยาบาลโพธาราม ร่วมออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพแก่ประชาชน โดยมีผู้ป่วยไปขอรับบริการจำนวน 111 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการ เกี่ยวกับโรคระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ และโรคผิวหนัง


โอกาสนี้ ทรงมีพระดำรัสอัญเชิญความห่วงใยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยที่ไปเฝ้ารับเสด็จ ดั่งใจความตอนหนึ่งว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรทุกคน จึงมีรับสั่งให้ข้าพเจ้าเป็นตัวแทนพระองค์มาแจกถุงยังชีพ ซึ่งวันนี้เตรียมมาไม่ได้มากนัก เพราะเพิ่งได้รับคำสั่งให้เตรียมเมื่อคืนตอน 5 ทุ่ม ซึ่งเราทำกันจนเช้า จึงได้แค่นี้ แต่จะทำแล้วส่งมาอีก จะช่วยตลอดเวลา และถ้ามีเหตุการณ์อะไรตอนนี้ หน่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และ พอ.สว.อยู่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากประชาชนไว้กับพวกเราชาว พอ.สว. พวกเรา พอ.สว. ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จะมาเสริมในแห่งที่วิกฤต เราจะทำให้ดีที่สุด เราจะช่วยกันต่อไป แต่พี่น้องที่น้ำท่วมต้องมีกำลังใจ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ รับรองว่า เราจะสามารถผ่านวิกฤตการณ์นี้ได้อย่างสบายๆ”



ทั้งนี้ พื้นที่หลายแห่งในอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะถนน สะพาน และแหล่งน้ำ รวมทั้งอาคารบ้านเรือนของราษฎร โดยมีพื้นที่ประสบภัย รวม 7 ตำบล 71 หมู่บ้าน มีประชาชน ได้รับผลกระทบ 21,532 ครัวเรือน 65,691 คน

วันที่ 16 มกราคม 2560 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานถุงยังชีพแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปากพนัง ณ วัดมหิสสราราม ต.คลองกระบือ อำเภอปากพนัง จังหวันครศรีธรรมราช โดยระหว่างเส้นทางเสด็จ ได้ทอดพระเนตรสภาพน้ำท่วม และความเป็นอยู่ของราษฎรที่มีน้ำท่วมขัง และได้พระราชทานถุงยังชีพ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จอยู่ตามเส้นทางด้วย

นอกจากนั้น ได้พระราชทานถุงยังชีพซึ่งบรรจุสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิต ประจำวัน ทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภค จำนวน 1,000 ชุด แก่ตัวแทนของราษฎรที่ประสบอุทกภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งตัวแทนของหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่สมาชิกตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ด้วย

จากนั้น ได้ทรงติดตามการดำเนินงานของหน่วยแพทย์พระราชทานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพรศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. และหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่โปรดให้ไปออกหน่วยตรวจรักษาโรค และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาทั้งสิ้น 273 คน ส่วนมากเจ็บป่วยด้วยโรคระบบกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ รองลงมาคือ โรคระบบทางเดินหายใจ




โอกาสนี้ ยังทรงรับผู้ป่วย จำนวน 2 ราย ซึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งลิ้น และโรคพาร์กินสัน โดยโปรดให้ส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลที่เหมาะสมกับอาการของโรคต่อไป พร้อมพระราชทานเงินช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปพบแพทย์ และเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวของผู้ป่วย

ในการนี้ ทรงมีพระดำรัสอัญเชิญความห่วงใยจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย ชาวนครศรีธรรมราช ดั่งใจความตอนหนึ่งว่า… “ …ในหลวงองค์ปัจจุบัน ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้แทนพระองค์มาแจกของที่ข้าพเจ้ากับท่านช่วยกันเลือกช่วยกันบรรจุ มันคงไม่ใช่แค่นี้ ที่ทำมาหากวันนี้แค่ 1,000 ถุง ตอนนี้สั่งมาอีก 3,000 ถุงแล้วก็สั่ง ไปเรื่อย ๆ ยังไง ยังไง เมื่อพี่น้องประชาชนยังลำบาก แล้วข้าพเจ้าจะอยู่สบายได้ยังไง เราต้องสุข มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ข้าพเจ้าขอให้กำลังใจชาวนครศรีธรรมราชให้สู้เข้าไว้…”


จากนั้น ทรงประกอบข้าวผัดสเปนพระราชทานให้ผู้ประสบอุทกภัยที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย ซึ่งได้สร้างความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายแห่งในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความเสียหายต่อครอบครัวที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร การปศุสัตว์ การประมง รวมถึงสิ่งสาธารณูปโภค สาธารณูปการต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ อีกเป็นจำนวนมาก โดยมีพื้นที่ประสบภัย รวม 23 อำเภอ 163 ตำบล 1,513 หมู่บ้าน มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 795,000 คน 248,000 ครัวเรือน


วันที่ 18 มกราคม 2560 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี โดยได้พระราชทานถุงยังชีพ ซึ่งบรรจุสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภค จำนวน 1,000 ชุด พร้อมพระราชทานถุงยังชีพสำหรับสัตว์เลี้ยงซึ่งจัดถวายโดยคณะสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ประกอบด้วยยารักษาโรคต่างๆ ของสัตว์ อาทิ ยาทาแผลติดเชื้อ ยาถ่ายพยาธิ และยาแก้ท้องเสีย รวมทั้งอาหารเม็ด รวมกว่า 3,000 กิโลกรัม แก่ตัวแทนของราษฎรที่ประสบอุทกภัย และผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย


นอกจากนั้น ยังโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยแพทย์ พอ.สว. ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาราษฎร โดยมีผู้ไปรับบริการ 266 คน โรคที่พบมาก คือ โรคระบบประสาทโรคกล้ามเนื้อกระดูกและข้อ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง และโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีผู้ป่วยที่ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ มูลนิธิ พอ.สว. จำนวน 2 คน ซึ่งป่วยเป็นโรครากประสาทไขสันหลังส่วนที่คอเส้นที่ 5-6 ถูกกดทับ และผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะและภาวะหัวใจวาย อีกทั้งยังได้พระราชทานเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปพบแพทย์ และเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวของผู้ป่วยด้วย


โอกาสนี้ ทรงมีพระดำรัสอัญเชิญความห่วงใยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานกำลังใจแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ยังความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ดั่งใจความตอนหนึ่งว่า
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้าพเจ้า เชิญถุงยังชีพพระราชทาน และข้าพเจ้าถือโอกาสเอาถุงยังชีพของข้าพเจ้าสมทบมาเพิ่มอีกด้วย วันนี้ จริงๆ ข้าพเจ้าควรมาถึงที่นี่ตอนบ่าย 2 โมง แต่ต้องขอโทษพี่น้องทุกคน ข้าพเจ้ามาถึงช้า เพราะว่าไข้สูงมาก ลุกไม่ขึ้น ปวดไปหมดทั้งตัว ทั้งฉีดยาแล้ว ทั้งกินยาแล้ว กว่าจะค่อยยังชั่วสัก 6 โมงเย็น ก็เลยตัดสินใจว่า ตั้งใจจะมาแล้ว ก็ขอให้ได้มาพบพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานีหน่อยหนึ่ง เพื่อมาให้กำลังใจทุกท่าน และเพื่อสัญญาว่าต่อไป ทางข้าพเจ้าเองและสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก็จะทำการช่วยเหลือให้รวดเร็วขึ้น”


เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,000,000 บาท โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ นำไปมอบให้แก่ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับความเดือดร้อนตามความเหมาะสมต่อไป


สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา พื้นที่หลายแห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมนี้ รวม 18 อำเภอ 119 ตำบล 911 หมู่บ้าน 33 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 79,365 ครัวเรือน


นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่ได้พระราชทานความเมตตามาสู่พสกนิกรผู้ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในยามทุกข์ยากและ ให้ผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ สามารถกลับมาดำเนินชีวิตเป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด อันนำมาซึ่งความปลื้มปีติแก่ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัยทุกคน

ฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์ สำนักประธานสถาบัน
26 มกราคม 2560