ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ณ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ นครราชสีมา และ บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2558

จังหวัดศรีสะเกษ

นับเป็นพระกรุณาธิคุณ ของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตา และความห่วงใยต่อทุกข์สุขของราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง

เมื่อวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังบ้านส้มป่อย อำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ พร้อมพระราชทานเครื่องนุ่งห่มและยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุ เครื่องแบบนักเรียน ตลอดจนของเล่นแก่เด็กเล็กซึ่งเป็นบุตรหลานของราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ นอกจากนี้ ทรงเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(พอ.สว.) พร้อมด้วยหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่โปรดเกล้าฯ ให้ร่วมออกไปให้บริการตรวจรักษาโรคแก่ราษฎรในจังหวัดศรีสะเกษ
รวมทั้งทรงติดตามการปฎิบัติงานของหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ที่โปรดเกล้าฯ ให้ร่วมออกตรวจรักษาโรคและให้คำปรึกษาประชาชนใน การดูแลสัตว์เลี้ยงของราษฎรในพื้นที่ด้วย
ในการออกปฏิบัติงาน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ครั้งนี้ มีประชาชนในพื้นที่เข้ารับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป, ทันตกรรม และแพทย์แผนไทย รวม 216 คน โรคที่พบมาก คือ ระบบกล้ามเนื้อ และมีผู้ป่วยที่เข้ารับพระราชทานความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว จำนวน 4 ราย ซึ่งป่วยด้วยโรคและอาการต่าง ๆ ได้แก่ ฮอร์โมนผิดปกติ, ข้ออักเสบ, ตับแข็งและท่อน้ำดีตีบตัน รวมถึงศีรษะใหญ่ผิดปกติ ทั้งนี้ ทรงร่วมพิจารณาวินิจฉัยโรคร่วมกับคณะแพทย์ เพื่อหาแนวทางรักษาอย่างเหมาะสมในแต่ละรายต่อไป
หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดแพทย์อาสา ลำดับที่ 28 ปัจจุบัน มีสมาชิกพอ.สว. รวม 2,460 คน ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และอาสาสมัครต่าง ๆ ในการนี้ พระราชทานพระดำรัส เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนแก่สมาชิก พอ.สว. ตลอดจนมีพระดำรัสถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในการเข้าถึงด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในท้องถิ่น 17 สิงหาคม 2558

จังหวัดสุรินทร์

การปฎิบัติพระกรณียกิจ พอ.สว. ในฐานะองค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ของศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี นับเป็นอีกหนึ่งพระกรณียกิจที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของราษฎรในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนธาตุศรีนคร บ้านธาตุ ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทรงติดตามการทำงานและพระราชทานกำลังใจให้แก่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ที่ไปปฎิบัติหน้าที่ตรวจรักษาโรคให้แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ รวมถึงหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นอกจากนี้ยังทรงมีพระเมตตาแก่สัตว์เลี้ยงของราษฎรในพื้นที่ จึงโปรดเกล้าฯให้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมออกหน่วยบริการตรวจรักษาโรคและให้ปรึกษาคำแนะนำในการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงด้วย
ในการนี้ มีผู้ไปรับบริการตรวจรักษาโรค, ทันตกรรม และแพทย์แผนไทย รวม 280 คน โรคที่พบมาก คือ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก นอกจากนี้ได้พระราชทานความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัวราษฎรที่เจ็บป่วย โดยทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ เพื่อส่งไปรักษาอย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 ราย ซึ่งป่วยด้วยโรคต่างๆ อาทิ โรคเกล็ดเลือดต่ำ เนื้องอกในสมอง และต้อหินจนตาบอดทั้งสอง เป็นต้น โดยได้ทรงซักถามถึงอาการเจ็บป่วยและสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ด้วยความใส่พระทัย
ด้วยพระกรณียกิจในการเสด็จเยี่ยมดูแลทุกข์สุขของราษฎรและผู้ป่วยในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วทุกแห่งหนโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนานั้น สร้างความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้ นับเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนโดยทั่วไป ไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้น แต่ยังความปลาบปลื้มมาสู่ชาวต่างประเทศด้วย โดยพระองค์ทรงเป็นพระมิ่งขวัญนำมาซึ่งความหวังสู่ชีวิตใหม่ของราษฎร ให้มีกำลังกายและแรงใจต่อสู้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ภายใต้ร่มพระบารมี
หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดแพทย์อาสาลำดับที่ 29 ปัจจุบันมีสมาชิกประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล อาสาสมัคร รวม 1,709 คน

18 สิงหาคม 2558

จังหวัดนครราชสีมา

ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูสุขอนามัยของประชาชน โดยเมื่อวันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ได้เสด็จไปยังโรงเรียนคลองเมืองพิทยาคม ตำบลคลองเมือง อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ทรงติดตามการปฎิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) หน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่โปรดเกล้าฯ ให้ร่วมออกบริการตรวจรักษาโรคแก่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาด้วย
ในการเสด็จไปทรงงานพอ.สว. ทุกครั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประชาชนในพื้นที่เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ด้วยพระเมตตา และด้วยทรงมีความห่วงใยต่ออาณาประชาราษฎร์ ทั้งผู้สูงอายุ และเด็ก โดยได้พระราชทานสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุ และพระราชทานเครื่องแบบนักเรียนแก่ เด็กนักเรียน ตลอดจนพระราชทานของเล่นแก่เด็กเล็ก เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่างๆด้วย
สำหรับการให้บริการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในครั้งนี้ มีผู้ไปรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และแพทย์แผนไทย รวม 339 คน โรคที่พบมาก คือ ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก และมีผู้ป่วยที่ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือสงเคราะห์แก่ครอบครัว จำนวน 6 ราย อาทิ ผู้ป่วยเนื้องอกที่แก้มซ้าย เด็กดักแด้ ปากแหว่งเพดานโหว่ และแขนขวาดึงรั้ง เป็นต้น โดยทรงซักถามถึงอาการ และทรงรับฟังคำวินิจฉัยของแพทย์เจ้าของไข้ด้วยความสนพระทัย
นอกจากนี้ยังทรงมีพระเมตตาแก่สัตว์เลี้ยงของราษฎรใน พื้นที่ด้วย โดยโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมออกหน่วยบริการตรวจรักษาโรค และให้คำปรึกษาดูแลรักษาสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยงของราษฎรด้วย เพราะหากไม่ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี อาจเป็นพาหะนำโรคร้ายต่างๆ มาสู่สุขภาพของคนได้

สำหรับหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดแพทย์อาสาลำดับที่ 42 เมื่อปี พ.ศ.2517 ปัจจุบัน มีแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และอาสาสมัคร รวม 3,077 คน

20 สิงหาคม 2558

จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เสด็จไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร พร้อมทั้งทรงติดตามการดำเนินงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ซึ่งออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาราษฎรผู้เจ็บป่วย ณ โรงเรียนสตึก ตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นจังหวัดสุดท้ายของการปฏิบัติพระภารกิจในครั้งนี้
โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยแพทย์พระราชทานสถาบัน วิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่ให้บริการตรวจรักษาโรคแก่ราษฎรที่เจ็บป่วยในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย พร้อมทั้งพระราชทานขวัญกำลังใจและคำแนะนำให้แก่สมาชิก พอ.สว. ทุกคนเพื่อใช้เป็นหลักในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
นอกจากพระราชทานการให้บริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงในพื้นที่แห่งนี้แล้ว ยังทรงมีพระเมตตา และห่วงใยทุกข์สุขของราษฎรเสมอมา จึงได้พระราชทานสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุ และพระราชทานเครื่องแบบนักเรียนแก่เด็กนักเรียน ตลอดจนพระราชทาน ของเล่นแก่เด็กเล็กๆ ที่มาเฝ้ารับเสด็จด้วย
ในการนี้ มีผู้ไปรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และแพทย์แผนไทย รวม 344 คน โรคที่พบมาก คือ โรคระบบทางเดินหายใจ และมีผู้ป่วยที่ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว จำนวน 5 ราย ซึ่งป่วยเป็น โรคและอาการต่างๆ ได้แก่ มะเร็งช่องปาก โรคหัวใจ แก้วหูข้างขวาอักเสบและตาต้อ เท้าผิดรูปแต่กำเนิด และโรคสะเก็ดเงิน ทั้งนี้ ทรงมีพระวินิจฉัยร่วมกับแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา พร้อมทั้งทรงรับไว้ในพระอนุเคราะห์เพื่อส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคตามความเหมาะสมกับอาการของคนไข้ในแต่ละรายให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดต่อไป พร้อมกันนี้ ยังโปรดให้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมออกหน่วยให้บริการประชาชนในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงอย่างถูกสุขลักษณะ

หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดแพทย์อาสาลำดับที่ 27 เมื่อปี 2513 ปัจจุบันมีสมาชิก พอ.สว. รวม 1,542 คน ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล อาสาสมัครสายต่างๆ

ฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์ สำนักประธานสถาบัน
25 สิงหาคม 2558