สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งราชอาณาจักรสวีเดน
เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานในส่วนต่าง ๆ ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และศูนย์โรคลมชัก สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2553 เวลา 09.30 น. สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งราชอาณาจักรสวีเดน เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และประธานบริหารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ คณะผู้บริหารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และคณะผู้แทนจากราชอาณาจักรสวีเดน เฝ้ารับเสด็จ
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงนำเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรเครื่องตรวจวินิจฉัยทางรังสีที่ทันสมัยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงเทียบเท่า 128 สไลด์ ที่สามารถช่วยแยกส่วนประกอบของร่างกายและเนื้องอกได้ดี เครื่องตรวจวินิจฉัยโดยใช้สนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นเครื่อง MRI ที่ทันสมัย สามารถทำการตรวจอวัยวะได้หลายส่วนในเวลาเดียวกันและสามารถสร้างภาพได้ทั้งตัว เพื่อใช้ในการตรวจหามะเร็งได้ครอบคลุมทุกส่วน และเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอลแบบ 2 ระนาบ และเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรเครื่องฉายรังสี 4 มิติ รังสีภาพนำวิถี ซึ่งเป็นเครื่องฉายรังสีที่ทันสมัย ที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการฉายรังสีให้ตรงตำแหน่งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสการหายให้สูงขึ้น และยังช่วยลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉายรังสีได้ โดยที่เนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียงอื่น ๆ มีผลกระทบน้อยมากหรือไม่มีเลย จากนั้นเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรคลินิกประเมินความเสี่ยง ซึ่งเป็นคลินิกที่ให้บริการกับผู้ที่ยังไม่เป็นมะเร็ง แต่ต้องการตรวจเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งแต่ละชนิด โดยการทำแบบประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็งด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และให้คำปรึกษาโดยแพทย์และพยาบาลในการป้องกันการเกิดมะเร็งในแต่ละบุคคล และเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมผู้ป่วยและทอดพระเนตรหอผู้ป่วยใน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ด้วย
ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปยังชั้นที่ 12 และชั้นที่ 14 ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์โรคลมชัก สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงทอดพระเนตรการดำเนินงานในส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์ประชาอาทร ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการให้ข้อมูลคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยโรคลมชักและประชาชน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โครงการสายฝนสู่รากหญ้า เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล โดยให้การรักษาและแนะนำผู้ป่วยผ่านระบบ Internet Online ซึ่งมีทั้งภาพและเสียง ให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรงกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในศูนย์ฯ เพื่อการวินิจฉัยและการรักษา เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และลดอันตรายจากการชักระหว่างการเดินทาง และทอดพระเนตรภายในคลินิกโรคลมชัก ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูลผู้ป่วย และมีโปรแกรมคำนวณผลการหายจากการชักเป็นกราฟ ทำให้ประเมินผลการรักษาได้ง่าย จากนั้นเสด็จฯ ไปยังแผนกผู้ป่วยใน ทอดพระเนตรหน่วยมอนิเตอร์โรคลมชัก ที่ใช้เทคนิคที่ทันสมัยต่าง ๆ ตรวจประเมินผู้ป่วยที่จะผ่าตัดโรคลมชักแล้วมีโอกาสหายขาด ได้แก่ การใส่ขั้วไฟฟ้าในสมอง การใช้ PET Scan การใช้ MRI ขนาด 3 Tesla และการผ่าตัดแบบใหม่ๆ ที่ล้วนพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศ
โอกาสนี้ สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งราชอาณาจักรสวีเดน ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก และ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนี้ด้วย
เผยแพร่ เมื่อวันที 20เมษายน 2553